“เลือดกำเดาไหล” เกิดจากเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก ในเด็กมักพบเลือดกำเดาไหลจากด้านหน้าของจมูก มักจะไม่รุนแรง หยุดได้เองและสามารถดูแลอาการที่บ้านได้

เราจะป้องกันไม่ให้ลูกมีเลือดกำเดาไหลบ่อยได้อย่างไร?

– นอกจากคอยเตือนเด็ก ๆ ไม่ให้แคะจมูก หรือสั่งน้ำมูกแรง ๆ แล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันเยื่อบุจมูกแห้งซึ่งจะทำให้เลือดกำเดาไหลได้ง่าย โดยใช้น้ำเกลือหยดในจมูก หรือทาวาสลีนเคลือบในรูจมูกของลูกในฤดูหนาว

– หมั่นดูแลตัดเล็บเด็กให้สั้นและสะอาดอยู่เสมอ

– สำหรับเด็กๆ ที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ก็ควร หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และรักษาอาการด้วยยาตามที่คุณหมอให้มา หากต้องใช้ยาพ่นจมูกก็ควรพ่นอย่างถูกวิธี

– ดูแลร่างกายให้แข็งแรง โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นหวัดบ่อย ไม่มีอาการโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้กำเริบ ทำให้มีการอักเสบของจมูกน้อยลง ก็ลดโอกาสในการเกิดเลือดกำเดาไหลได้ค่ะ

หากลูกเลือดกำเดาไหลควรทำอย่างไร?

เมื่อพบว่าลูกมีเลือดกำเดาไหล คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องตกใจนะคะ ให้ลูกนั่งก้มหน้าลง หายใจทางปาก แล้วใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือบีบปีกจมูกทั้งสองข้างให้แน่นเป็นเวลา ประมาณ 10 นาที แล้วนอนพัก ยกศีรษะสูง หากมีถุงเย็นหรือน้ำแข็ง ก็นำมาประคบบริเวณไว้ที่หน้าผากด้วย โดยประคบถุงเย็นหรือน้ำแข็งนานประมาณ 10 นาที แล้วเอาออกประมาณ 10 นาที จึงประคบใหม่ 10 นาที ทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหายสนิท

หากเลือดยังไหลไม่หยุดหรือเลือดออกปริมาณมากผิดปกติ หรือมีอาการเลือดออกที่อื่นด้วย ควรรีบไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลทันทีนะคะ

หลังเลือดกำเดาไหล ในวันแรก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกหลีกเลี่ยง การแคะจมูก สั่งน้ำมูกแรงๆ การยกของหนักหรือเล่นกีฬาที่หักโหม เพราะอาจทำให้มีเลือดออกซ้ำได้

 

 

ที่มา : theasianparent