%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%88

เมื่อตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องกินอาหารให้หลากหลายเพื่อใช้เป็นสารอาหารสำหรับลูกในครรภ์ โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผัก ดังนั้นการกินเจอาจทำให้แม่ท้องขาด โปรตีน วิตามินบี 12 และกรดอะมิโน แม้ว่าผักหลายชนิดจะมีโปรตีนเข้ามาทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ แต่ก็มีกรดอะมิโนในสัดส่วนที่น้อยกว่าปกติ ถ้าแม่ท้องต้องการกินเจเพื่อการรักษาสุขภาพที่จึงอาจไม่เหมาะแต่ก็สามารถทานได้ แต่แนะนำให้กินอาหารมังสวิรัติแทน เพราะแม้ว่าอาหารมังสวิรัติจะกินเนื้อสัตว์ไม่ได้เช่นเดียวกับอาหารเจแต่ก็สามารถกินนม เนย และไข่ได้ ซึ่งแหล่งอาหารเหล่านี้มีโปรตีนเพียงพอที่จะไปทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์  สำหรับคุณแม่ตั้งใจอยากทานเจจริงๆก็สามารถทานได้ แต่ให้ทานในระยะสั้น ๆ  และควรหาแหล่งโปรตีนและวิตามินทดแทน เช่น อาหารจำพวกถั่ว ธัญพืช ข้าวโพด ลูกเดือย งา เมล็ดดอกทานตะวัน ผักใบเขียว เป็นต้น เพื่อป้องกันการขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ รวมไปถึงตัวคุณแม่เองด้วย

สำหรับแม่ท้องที่กินเจหรือแม่ที่ให้นมลูกจะต้องเพิ่มการกินอาหารประเภทถั่ว ธัญพืชมากขึ้นเป็น 2 เท่า และแม่ท้องควรกินเจโดยคำนึงถึงอายุครรภ์เป็นหลักเช่น

  • แม่ท้องอายุครรภ์ 2-4 เดือนแรก คุณหมออาจจะไม่แนะนำให้กินเจ แต่ถ้าต้องกินเจก็ควรกินอาหารตามตารางข้างต้นเสริม 2-3 เท่า โดยเฉพาะสำหรับแม่ท้องที่ไม่เคยกินเจมาก่อน ยิ่งไม่แนะนำเพราะการกินเจต้องมีการเตรียมตัวก่อน 1 วัน ซึ่งเป็นวันที่ร่างกายต้องปรับตัวอย่างมาก จึงอาจทำให้แม่ท้องไม่มีเรี่ยวแรงได้ นอกจากนี้การกินเจในช่วงที่กำลังท้องอยู่อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร และไปหยุดยั้งการเจริญเติบโตบางส่วนของลูกในท้อง
  • ช่วงอายุครรภ์ประมาณ 7-8 เดือน สามารถกินเจปกติได้ เนื่องจากทารกในท้องมีร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว แต่ต้องกินอาหารเสริมทดแทนด้วย

ทั้งนี้ไม่เพียงแต่อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเลือกทานอาหารให้เหมาะสมแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดูแลควบอารมณ์ให้แจ่มใส นั่นจะทำให้คุณและลูกในท้องมีสุขภาพที่ดีทั้งกาย และใจอย่างแน่นอนค่ะ

เรียบเรียงโดย สมุนไพรบ้านอาจารย์